วันพฤหัสบดีที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2554

การแสดงผลข้อมูล

การสั่งให้เครื่องคอมพิวเตอร์ทำงานใดๆ และรอรับค่าผลลัพธ์จากเครื่อง จะต้องมีการติดต่อกับเครื่อง โดยการส่งผ่านค่าอินพุทไปยังเครื่องคอมพิวเตอร์ และรับค่าเอาท์พุทจากเครื่องคอมพิวเตอร์ดังนี้
อินพุท คือ การรับค่าข้อมูลของผู้ใช้เข้าไปในเครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์อินพุทมาตรฐาน ได้แก่ คีย์บอร์ดหรือแป้นพิมพ์ สแกนเนอร์ หรือ เมาส์   
เอาท์พุท คือ การแสดงผลข้อความ ข้อมูล หรือ ค่าตัวแปรใดๆ ออกมาแสดงให้กับผู้ใช้ทางอุปกรณ์แสดงผลเอาท์พุทต่างๆ อุปกรณ์เอาท์พุตมาตรฐาน  ได้แก่ จอภาพ ลำโพง หรือ เครื่องพิมพ์
เครื่องคอมพิวเตอร์ทั่วไป ไม่สามารถจดจำตัวอักษรในลักษณะของรูปร่างตัวอักษรได้ การจดจำรูปร่างตัวอักษรเพื่อนำไปใช้งานนั้น คอมพิวเตอร์จะจดจำในรูปรหัสแทนตัวอักษร เมื่อต้องการแสดงตัวอักษร คอมพิวเตอร์ก็จะนำค่ารหัสเหล่านี้ไปเปิดตารางภาพตัวอักษร แล้วนำภาพตัวอักษรตามรหัสนั้นไปแสดงต่อไป

2.2 แอสกี (ASCII)
แอสกีเป็นรหัสแทนตัวอักษรที่นิยมใช้กันมากที่สุด ย่อมาจาก American Standard Code for Information Interchange รหัสนี้แทนตัวอักษรได้ 128 ตัว นอกจากนั้นยังมีอีก 128 ตัว ซึ่งอยู่ในส่วนที่เรียกว่า Extended ASCII code ในรหัสส่วนนี้ปกติจะเป็นตัวอักษรกรอบ พื้น ลายเส้น และตัวอักษรกรีก-ละติน ประเทศไทยใช้ในการกำหนดเพื่อเก็บตัวอักษรภาษาไทย มาตราฐานที่ใช้กันก็มี รหัส สมอ. และรหัส เกษตร เป็นต้น
อักขระหรือตัวอักษร (Characters) คือรหัสที่ใช้แทนภาพ หรือ เครื่องหมายย่อยที่สุดในการเขียน ใช้ตัวแปรชนิด Character ในการเก็บข้อมูล เช่น
                        ¢A¢       หมายถึงอักษร A
                        ¢4¢        หมายถึงอักษร 4
                        ¢b¢        หมายถึงอักษร b
                        ¢\0¢       หมายถึงอักษรที่มีรหัสเป็น 0
                        ¢\x7¢     หมายถึงอักษรที่มีรหัสเป็น 7 ในเลขฐานสิบหก

สตริง (String) คือกลุ่มข้อมูลที่ประกอบไปด้วยตัวอักขระที่เขียนเรียงกันไป ใช้ตัวแปรชนิด อักขระในการเก็บภาพข้อมูลต่อหนึ่งหน่วยตัวอักษร โดยจะมีเครื่องหมาย ² ² อัญประกาศ (Double qoute) ล้อมรอบอยู่เสมอ เช่น Hello World! ในภาษาซีต้องเขียนเป็น  ²Hello World!²

2.3 การแสดงผลข้อมูล

ในการแสดงผลข้อมูลในภาษาซีจะมีคำสั่งมาตรฐานในการแสดงผลข้อมูล หรือ ค่าตัวแปรออกมาทางจอภาพ คำสั่งนั้นคือ  printf (อ่านว่า พรินต์-เอฟ )
ตัวอย่างเช่น เมื่อผู้เขียนโปรแกรมต้องการจะแสดงข้อความ “Hello World” บนหน้าจอคอมพิวเตอร์ ผู้เขียนโปรแกรมสามารถใช้คำสั่ง printf ได้ดังนี้

#include <stdio.h>
int main()
{    printf(”Hello World!\n”);
     return 0;
}

จะได้ผลลัพธ์ ทางหน้าจอคือ
กล่องข้อความ: Hello World!
พร้อมกับการขึ้นบรรทัดใหม่ของเคอร์เซอร์ (cursor)

จากตัวอย่างข้างต้น สามารถอธิบายการทำงานในแต่ละบรรทัดของโปรแกรมได้ดังนี้
 
#include <stdio.h>

จะเป็นการแจ้ง C preprocessor ก่อนการคอมไพล์ ว่าในโปรแกรมนี้จะมีการแสดงข้อมูล (data) บนหน้าจอ หรือ รับข้อมูลจากทางคีบอร์ด ซึ่งในตัวอย่างนี้จะหมายถึงการแสดงข้อมูลทางหน้าจอเพราะ คำสั่ง printf


 

int main()

ฟังก์ชั่นหลักของโปรแกรม โดยจะมีการรีเทิร์น (return) ค่าเป็นแบบจำนวนเต็ม (integer).
 

printf(”Hello World!\n”);


ทั้งบรรทัดนี้จะถูกเรียกว่า statement ซึ่งประกอบด้วย
printf    เป็นคำสั่งที่ใช้เมื่อต้องการแสดงข้อมูลทางหน้าจอ
printf จะตามด้วยเครื่องหมาย ( และ ) ซึ่งภายในจะเป็นข้อมูลประกอบการทำงานของ printf หรือเรียกว่า พารามิเตอร์ (parameter) เมื่อโปรแกรมถูกทำงาน ข้อความตามรูปแบบที่กำหนดที่อยู่ภายในเครื่องหมาย () นี้จะถูกแสดง ซึ่งในที่นี้คือประโยค Hello World! ในการแสดงตัวอักษรหรือประโยคในภาษาซีนั้น จะต้องอยู่ภายในเครื่องหมายอัญประกาศ (Double Quote)
;           เมื่อจบ statement หนึ่งๆ จะต้องถูกปิดด้วย เครื่องหมาย semi-colon   
\n         จะเห็นว่า  \n จะไม่ถูกแสดงบนหน้าจอ เนื่องจาก  \ (backslash) จะเป็นตัวอักษรพิเศษ เมื่อรวมกับตัวอักษรที่ด้านหลัง แล้วจะทำให้มีความหมายต่างๆ ซึ่งในที่นี้ จะหมายความว่า เป็นการสั่งให้เคอร์เซอร์ขึ้นบรรทัดใหม่ เราเรียก รหัสพิเศษนี้ว่า Escape Sequence
นอกจาก \n  แล้ว ยังมีรหัสพิเศษอื่นๆอีก ดังนี้คือ

Escape Sequence

ค่า
หน้าที่
\a
0x07
เสียงดังออกลำโพงหนึ่งครั้ง
\b
0x08
เลื่อน cursor ไปลบตัวอักษรทางซ้ายมือหนึ่งตัวอักษร
\f
0x0c
ขึ้นหน้าใหม่
\n
0x0a
ขึ้นบรรทัดใหม่
\r
0x0d
เลื่อน cursor ไปทางซ้ายมือสุดของบรรทัด
\t
0x09
เลื่อนเคอร์เซอร์ ไป 1 tab ในแนวนอน
\\
0x5c
เครื่องหมาย \
0x2c
เครื่องหมาย ¢
0x22
เครื่องหมาย ²
\?
0x3f
เครื่องหมาย ?

ตารางที่ 2.1 แสดงตัว Escape Sequence ต่างๆ ที่มีใช้ในภาษาซี



 

return 0

เป็นการจบการทำงานของฟังก์ชั่น main ซึ่งเป็นการบอกว่าต้องการจะออกจากฟังก์ชั่น

ตัวอย่างด้านล่างนี้ เป็นตัวอย่างของการใช้งาน printf

ตัวอย่างที่
#include <stdio.h>
int main()
{    printf(“Hello”);
Printf(”World!\n”);
     return 0;
}
กล่องข้อความ: Hello World!

ผลลัพธ์



ตัวอย่างที่ 2
#include <stdio.h>
int main()
{    printf(”Hello\n”);
printf(<<”World!\n”);
     return 0;
}
กล่องข้อความ: Hello 
World!

ผลลัพธ์




ตัวอย่างที่ 3
#include <stdio.h>
int main()
{    printf(”The volume of the box is %d”, 2*3*4);
     return 0;
}
กล่องข้อความ: The volume of the box is 24

ผลลัพธ์


ตัวอย่างที่ 4
#include <stdio.h>
int main()
{   
printf(”The volume of the box is ”,
          2*3*4);
     return 0;
}
กล่องข้อความ: The volume of the box is 24
ผลลัพธ์


จากตัวอย่างที่ 4 จะเป็นกรณีที่ ในบรรทัดของคำสั่ง printf มีความยาวมาก ทำให้ไม่สามารถเขียนให้จบได้ภายใน 1 บรรทัด ผู้เขียนโปรแกรมสามารถขึ้นบรรทัดใหม่ได้ โดยใส่เครื่องหมาย; ปิดท้ายในบรรทัดสุดท้าย

ตัวอย่างที่ 5
#include <stdio.h>
int main()
{    char x = ’M’;
char name[10] = ”Maliwan”;
printf(”The first character is %c\n”, x);
printf(”My name is %s\n”, name);
     return 0;
}

กล่องข้อความ: The first character is M
My name is Maliwan
ผลลัพธ์


จากตัวอย่างที่ 5 จะมีการใช้ \n คือ ให้ขึ้นบรรทัดใหม่





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น